วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

คิดเอง2

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก&กวน มึน โฮ
ชอบเรื่องไหนมากกว่ากัน

         จากที่เราได้ดูทั้งสองเรื่องนี้นะ เราชอบทั้งสองเรื่องเรย แต่เราชอบเรื่องสิ่งเล็กๆ มากกว่าอ่ะมานซึ้งๆ ดีแบบว่าโดนสุดๆเรย ส่วนเรื่องกวน มึน โฮ เราว่าเวอร์ไปนิดนึง คิดดูไคจะกล้าเอาผ้าห่มคลุมตัวเดินเที่ยว แต่เราชอบตรงที่เรื่องนี้ฮาดี จบได้มึนสมชื่อเรื่องจิงๆ!!





รูปจากหนังเรื่องสิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก



น้ำ นางเอกของเรื่องตอนเด็ก ช่างแต่งหน้าแต่งเก่งมากเลยย!!





เราชอบตุ๊กกี้นะ เรื่องนี้แต่งตัวสวยย




มารีโอ ตอนที่ถูกทำโทษ เต้นท่าน่ารักมาก


รูปจากหนังเรื่อง กวน มึน โฮ



ฉากนี้กำลังซึ้งได้ที่ นอนดูดาวกลางถนนเลยทีเดียว





ลูบไล้หุ่นที่เกาะนามิ ฉากนี้พระเอก ฮาสุดๆ





ฉากนี้กวนมาก ทั้งเลื่อยทั้งสว่านมาครบเลย




คุณล่ะ ชอบเรื่องไหนมากกว่ากัน  ^^?
   

คิดเอง1

ไปเท่วเกาะช้าง ^^"

       เมื่อปีที่แล้วเรามีโอกาสได้ไปเที่ยวเกาะช้างเป็นครั้งที่ หกมั้ง ดูเหมือนไปหลายครั้งนะ ครั้งแรกที่เราไปตอนนั้นอายุแค่สี่ขวบเองมั้ง ไม่รุเรื่องอะไรหรอก เที่ยวก็ยังเที่ยวไม่เป็นเลย แต่ไปครั้งสุดท้ายเนี่ยเราอายุเกือบ18แล้ว  เที่ยวอย่างเต็มที่เลย มีอะไรให้ทำก็ทำหมดเลย ครั้งนั้นเป็นการไปเที่ยวเกาะช้างที่คุ้มที่สุดจากหกครั้งที่เคยไป
       เราเริ่มออกเดินทางตอนตีสี่ไปถึงนู่นก้อเช้าพอดี เราขึ้นเฟอร์รี่ลำแรกเลย ไปถึงที่พักก็ประมาณเก้าโมง ที่พักของเราเป็นแบบโฮมสเต ไปถึงก้อมีข้าวต้มเลี้ยง หมึก กุ้ง ปลามีเยอะมาก แต่ข้าวน้อยจัง -*-
หลังจากนั้นก้อนอนพักสักครึ่งชั่วโมง แล้วก็เริ่มทัวร์
        ระหว่างที่เรานั่งเรือไปเกาะยักษ์ซึ่งไกลจากที่พักพอควรอยู่ มีฝนตกด้วย  แต่ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร เพราะพอไปถึงเกาะฝนก็หยุดตกพอดี  เมื่อเรือจอดเราก็กระโจนลงน้ำเลยเพราะตรงนั้นไว้สำหรับดูปะการัง ปะการังที่นั่นสวยมาก ปลาก็น่ารัก แต่พอไปเจอหอยเม่นเราแทบจะไม่กล้ากระดุกกระดิกเลยเพราะน้ำตรงนั้นตื้นกลัวว่าเท้าจะไปโดนหอยเม่นเป็นที่ซู้ดเรย  แต่เราก็สามารถผ่านมาได้ วันนี้โชคดีทีฝนตก แดดเลยไม่มี ไม่ต้องกลัวดำเท่าไหร่  เราก็ว่ายวนๆอยู่ประมาณยี่สิบนาทีแร้วก็ขึ้นมา หลังจากนั้นก็ไปทานข้าวมื้อกลาางวัน แมื่อทานเสร็จ เขาก็พาเราไปอีกเกาะนึง เกาะนี้มีปะการังน้ำลึก แต่คลื่นก็แรงอยู่จึงต้องมีคนพาไป เราได้ไปตรงที่น้ำลึกยี่สิบเมตร พูดตามตรงน่ากลัวมาก แต่ปะการังสวยกว่าเกาะเมื่อกี้อีก คนที่นำเราไปพาเราวนจนรอบเกาะเลย แต่ตอนที่ใกล้จะถึงเรือนี่สิ มีแมงกระพรุนไฟเข้ามาใกล้ๆ ต้องรีบว่าหนีเลย พอขึ้นเรือได้ก้อกลับที่พัก วันแรกเล่นเอาซะหมดแรงเลย
        กลับมาถึงที่พักก็มีอาหารเย็นเตรียมไว้แล้ว เราอาบน้ำเสร็จก้อรีบมาที่โต๊ะเลย  แบบว่าหิวสุดๆ พอประมาณสองทุ่ม เจ้าของบ้านเขาก็พาไปป่าชายเลนเพื่อไปดูหิ่งห้อย แต่เมื่อไปถึงก็ต้องผิดหวังเพราะวันที่ไปแทบจะมพมีหิ่งห้อยเลย แต่ว่าที่โชคดีคือเราได้เห็นดาวตกตตอนสามทุ่มนี่สิ อิอิ เราไม่เคยเหงถ้าไม่ใช่หน้าฝนดาวตก เราก็เลยอธิษฐานไปว่า เมื่ออยู่มหา'ลัย ขอให้ได้เกียรตินิยม โชคดีจริง ที่นี่เห็นดาวเยอะมากเพราะว่าท้องฟ้ามืด มีแต่ดาว สวยมากๆเลย ระหว่างทางที่เราเดินเข้าไปในป่าชายเลนก็ไม่น่าไว้วางใจเท่าไหร่ เนื่องจากว่ามันเป็นสะพานไม้  แล้วบางช่องไม้ก็หายไป เวลาเดินจึงต้องคอยมองพื้นไว้ ไม้งั้นเดี๋ยวจะพลัดตกลงไปเราเดินอยู่ในนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงก็กลับที่พัก พอกลับไปถึงที่พักก็หลับเป็นตายเลย (--)zZ
         วันที่สองตอนเช้าเราได้ทานข้าวต้ม  เมื่อทานเสร็จก็ขึ้นไปจุดชมวิวบนเกาะ ระหว่างทางนั้นโค้งเยอะมากขึ้นๆลงๆเขาอีกตะหาก ข้ามต้มที่ทานมาตอนเช้าไม่เหลือเลย ออกมาหมด กว่าจะถึงจุดชมวิวแทบบตาย แต่เมื่อไปถึง ขอบอกเลยว่ามันสวยมาก!! อากาศก็ดี เราถ่ายรูปเล่นอยู่ที่นี่พักหนึ่งแร้วก็ ไปเกินตลาดซื้อของฝากนิดหน่อยแร้วก็กลับ ระหว่างทางกลับก็ได้แวะถ่ายรูปแถวๆหอประภาคาร แร้วเราก็กลับที่พัก จัดของเตรียมกลับบ้านนน

  
อานนี้เปงจุดชมวิวที่เราไปมา ในรูปมะค่อยสวยเท่าไหร่แต่ของจริงนี่สิ สวยมากนะ 



คุยโซไซตี้

 
คุยโซไซตี้

  หลังจากที่ได้สมัครเข้าไป http://www.kuisociety.net  ก้อลองกดมั่วๆ เข้าไปดู มันเป็นอารายที่งงมากๆเลย
เล่นไม่เป็น!!  ดูเหมือนว่าคุยโซไซตี้ จะเป็นโปรแกรม ที่มีแอปพลิเคชั่นเยอะมากเลย จึงไม่เหมาะที่จะนำมาใช้เพื่อการเป็นชุมชนเหมือน facebook เพราะมีแอปพลิเคชั่นเยอะไปนี่แหละปัญหาเลย ทำให้ผู้หัดเล่นเกิดความงุนงน ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี
         ส่วนเครื่องมือที่อยากให้มีใน คุยโซไซตี้ ก้อเช่นอยากให้แต่งหน้าโปรไฟล์ของตนเองได้ตามใจชอบ  ^^

                        ไม่รู้แร้วอร่าาา  เล่นไม่เปงงงงง   มึนนนนน  T^T
         

เที่ยวงานวันวิทย์ ม.บูรพา


ลั้ลลาา**สัปห์ดาวิทย์  @BUU


วันอังคารที่ 17 สิงหาคม เรามีเรียน ICT ตอนเช้า ที่ตึก SD ชั้นสี่  วันนั้นที่ตึกนี้มีการจัดงานวันวิทยาศาสตร์ เราก็ไปเดินๆเที่ยวงานมานิดหน่อย บนตึกตั้งแต่ชั้นหนึ่งถึงชั้นสาม มีการจัดแสดงโครงงานของคณะวิทยาศาสตร์ มีหลากหลายโครงงานให้เลือกชมแล้วแต่ความสนใจ เราไม่ได้ดูอะไรมากแค่เดินผ่านๆ พอเดินมาถึงชั้นหนึ่ง ตรงนั้นมีหอยวางอยู่เรียงรายเต็มไปหมด ก็เลยแวะเข้าไปดูซักหน่อย  พี่ที่เขาจัดบูธนี้ก็ชวนให้เล่นเกม ทีแรกไม่อยากเล่น ก็เลยเดินๆดูไปก่อนๆ แต่พอพี่เขาชวนอีกรอบ เลยลองเล่นดู
พี่เขาก็ให้เราเอามือไปควานๆอยู่ในกล่อง ซึ่งมีหอยอยู่หนึ่งตัว  โดยให้เราบอกให้ถูกว่าในกล่องนั้น เป็นหอยอยู่ในวงศ์อะไร ก็ไปเดินๆดู หาหอยที่มีรูปร่างเหมือนกับที่เราสัมผัสไป จากนั้นเมื่อเจอแล้วก็ไปตอบพี่เขา ปรากฏว่าเราตอบถูกด้วยอ่ะ ได้ดินสอมาใช้ฟรีหนึ่งแท่ง  พอดีว่าเราก็เหลือบไปเห็นปลาตัวสีชมพูอยู่ในขวด นึกสงสัยเรยถามพี่ เขาบอกว่าเป็นปลาที่จะเอาไปทำเป็นอาหารเป็ด พี่เขาก็เลยเอามาทดลองโดยการย้อมสี ถ้าปลามีกระดูกอ่อนจะมีสีชมพูติดอยู่ที่ก้าง แต่ถ้ามีกระดูกแข็งจะติดสีน้ำเงิน  แล้วเราเห็นว่ามันสวยดีก็เลยซื้อติดมือมาหนึ่งขวด ยี่สิบบาทลอยออกไปจากกระเป๋า ณ บัดนาว


หอยนานาชนิดที่ถูกจัดเรียงรายอยู่ในตู้


เดินๆไปเรื่อยๆ จนเกือบถึงตึกธำรงบัวศรี ก็เป็นคล้ายๆตลาดนัดขนาดย่อม เพราะมีของกิ๊ฟชอป เสื้อผ้า
วางขายอยู่หลายร้านเลย  ตกลงว่านี่คืองานสัปห์ดาวิทยาศาสตร์ หรือ ตลาดนัดกันแน่อ่ะเนี่ยยย!!!!!

ตึกถล่มของ ม.บูรพา

ตึกถล่ม!!!!! ณ ม.บูรพา

         วันที่ตึกถล่ม ตอนนั้นเรากำลังนั่งเล่นเฟสอย่างเมามันเลยทีเดียว  สักพักมือถือก้อดังขึ้น ดูที่หน้าจอก็งงๆที่เห็นว่าแม่โทรมา (ปกติแม่่ไม่โทหา ถ้าไม่ยิงไป)   พอรับโทรศัพท์แม่ก็ถามด้วยเสียงที่ตื่นเต้นว่า อยู่ไหน??  อยู่ในมอ รึป่าว? แร้วนี่มีเรียนมั้ย? ตอนนั้นประมาณสองทุ่มสามทุ่มแล้ว ในใจก้อคิด คิดอะไรของแม่เนี่ย วันนี้ไม่มีเรียนซะหน่อย ก็เลยถามแม่ไปว่ามีอะไรหรอ แม่ก้อบอกว่า ตึกถล่มในม.บูอ่ะ  O.O
ตึกไหนถล่มเนี่ย แม่ก็ยื่นโทรศัพท์ให้น้าคุย น้าก็บอกว่าตึกศึกษาศาสตร์ที่สร้างใหม่ถล่ม อยู่ข้างๆหอสมุด เราก็งงเข้าไปใหญ่ ตึกไหนว๊าาาา นึกมะออก ตอนนั้นนึกออกแต่ตึกที่สร้างอยู่หลังคณะโลจิสติกส์ซึ่งสร้างไปแล้วประมาณ 7-9 ชั้น โอ้ววถ้าถล่มลงมาจะเหลืออาร๊ายยย เราก็เรยถามแม่ไปว่ามีข่าวออกรึยัง
แม่ก็บอกว่า ลองกดๆหาดู

          พอได้ดูข่าวถึงรู้ว่าตึกที่ถล่มอยู่ถัดมาอีกตึกนึง สร้างได้แค่สองชั้น อาคารคณะศึกษาศาสตร์ที่ถล่มนั้น เป็นหนึ่งในอาคารที่คณะศึกษาศาสตร์ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 230 ล้านบาท ซึ่งจะประกอบไปด้วยอาคารเรียน 8 ชั้น อาคารปฏิบัติการ 3 ชั้น และอาคารหอประชุม 2 ชั้น อาคารที่ถล่มคืออาคารหอประชุม 2 ชั้น ซึ่งทางบริษัทรับเหมาก่อสร้าง(บริษัท บิลเลียน เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด)ดำเนินการสร้างมาแล้วประมาณ 1 ปี และต้องสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2554  พื้นที่ที่ใช้ก่อสร้างอาคาร ในอดีตเคยเป็นสระน้ำขนาดใหญ่มาก่อน เมื่อมีการอนุมัติให้ทำการก่อสร้าง จึงได้มีการถมดินเพื่อทำการก่อสร้างอาคารคณะศึกษาศาสตร์
            รองอธิบการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา ยืนยันว่า ภายในอาคารที่เกิดเหตุไม่มีนิสิตนักศึกษาติดอยู่ภายในตัวอาคารอย่างแน่นอน เนื่องจากอาคารอยู่ระหว่างการก่อสร้าง จึงมีเฉพาะคนงานเท่านั้น โดยจุดที่เกิดเหตุคือบริเวณการก่อสร้างชั้น 2 ซึ่งอยู่ในระหว่างการเทปูน คานที่รองรับแผ่นปูนได้ยุบตัวลงมาที่ชั้น 1 ซึ่งจากการสอบถามคนงานก่อสร้าง ทราบว่าได้มีการเร่งการก่อสร้าง ต้องทำงานกันทั้งวันกลางคืน โดยในในคืนนี้มีคนงานที่เข้าทำงานประมาณ 30-40 คน ขณะที่ นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีได้ เดินทางยังที่เกิดเหตุ

          
           ก่อนเกิดเหตุมีคนงานประมาณ 30-40 คนกำลังทำงาน จากนั้นแผ่นปูนชั้น 2 พังหถล่มลงมา ขณะ นี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย บาดเจ็บกว่า 10 ราย ได้ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลชลบุรี และ รพ.มหาวิทยาลัยบูรพาแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กันพื้นที่ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปภายในพื้นที่ ส่วนการกู้ภัยและกู้ซากอาคาร โดยจัดชุดกู้ภัยกว่า 30 ชุด ลงพื้นที่ค้นหาผู้ที่ยังติดอยู่ในตัวอาคาร

           เจ้าหน้าที่สามารถนำศพผู้เสียชีวิตออกมาได้แล้ว 1 ราย เป็นชายอายุ 38-40 ปี ผมยาว รูปร่างท้วม ผิวคล้ำ ลักษณะถูกปูนทับศรีษะจนเละชื่อนายรุ่ง แพรสา เป็นคนงานก่อสร้างในไซต์งานที่กลุ่มที่ 1 โดย จากการสอบถาม เจ้าหน้าที่จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ชลบุรี และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัย ทราบว่า กลุ่มคนงานที่ ก่อสร้าง แบ่งเป็น 3 กลุ่มงาน โดยกลุ่มงานแรกเป็นกลุ่มของ นายรุ่งที่เสียชีวิต มีด้วยกันจำนวน 8 คน และกลุ่มงานที่ 2 มีจำนวน 10 คน ทั้งหมดปลอดภัยแล้ว ส่วนกลุ่มที่ 3 ยังไม่ทราบจำนวนที่ชัดเจนแต่คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารมากที่สุด ทั้งหมดเป็นคนงานรับเหมาก่อสร้างของบริษัทบิลเลียน เอ็นจีเนียร์ริ่ง จำกัด ซึ่งนายกฤษดา ปฏิยัตต์โยธิน เป็นวิศวกรผู้คุมงานก่อสร้างดังกล่าว
           *********************************************************************
 
     วันนั้นเราก็ได้ไปในที่เกิดเหตุด้วยนะ แต่ตรงที่ตึกถล่มอ่ะ มานเป็นคนละฝั่งกับที่เราไปยืนดูเลยไม่เห็นอะไรเลย -*-   เห็นแต่รถปอเต็กตึ๊งกับหน่วยกู้ภัยวิ่งกันให้วุ่นวายไปหมด หลังจากยืนอู่ได้ประมาณห้านาทีเราก็กลับหอ มาติดตามข่าวต่อ เพราะอยู่ที่นั่นต่อไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
     เช้าวันต่อมาเราก็ได้ไปเห็นตรงที่ตึกถล่มลงมาซึ่งเป็นอีกฝั่งหนึ่งกะที่เราไปเมื่อวันเกิดเหตุ ตึกได้ถล่มลงมาทับรั้วที่ล้อมเขตก่อสร้างไว้  เห็นแร้วรู้สึกไม่ดีเลย แต่ก็ยังดีนะที่มีการล้อมรั้วไว้เพราะถ้าไม่มีรั้วอาจจะมีผู้เสียชีวิตเยอะกว่านี้ก็ได้ และอีกความโชคดีก็คือตึกนี้ถล่มลงตอนที่ยังสร้างไม่เสร็จ ลองคิดเล่นๆดูนะ ถ้าตึกนี้สร้างเสร็จเกิดถล่มลงมาจะมีคนตายเท่าไหร่  แต่ก็ขอแสดงความเสียใจด้วยกับญาติผู้เสียชีวิตและผู็ได้รับบาดเจ็บ    
    อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้ก็คงจะเป็น อุทาหรณ์ให้กับวิศวกรและผู้รับเหมาก่อสร้างว่าควรที่จะมีความรอบครอบมากกว่านี้ และไม่ทำอะไรแค่ผ่านๆไปเพราะอาจทำให้เกิดความสูญเสียอย่างร้ายแรงได้ในอนาคต